เมนู

2. กัณหชาดก



ว่าด้วยขอพร



[1329] บุรุษนี้ดำจริงหนอ บริโภคโภชนะก็ดำ
อยู่ในภูมิประเทศก็ดำ เราไม่ชอบใจเลย.
[1330] คนประกอบด้วยตบะไม่ชื่อว่าคนดำเพราะ
คนที่มีแก่นในภายใน ชื่อว่าเป็นพราหมณ์ บาป
กรรมมีอยู่ในคนใด คนนั้นแหละข้อว่าเป็นคน
ดำ นะท้าวสุชัมบดี.
[1331] ข้าแต่พราหมณ์ คำนั้นท่านกล่าวดีแล้ว
เป็นสุภาษิตอันสมควร ข้าพเจ้าจะให้พรท่าน
ตามแต่ใจท่านปรารถนาเถิด.
[1332] ข้าแต่ท้าวสักกะผู้เป็นใหญ่กว่าภูตทั้งปวง
ถ้าจะโปรดประทานพรแก่ข้าพระองค์ ข้าพระ
องค์ปรารถนาให้ความประพฤติของตน อย่าให้
มีความโกรธ อย่าให้มีโทสะ อย่าให้มีความ

โลภ อย่าให้มีความสิเนหา ขอได้ทรงโปรด
ประทานพร 4 ประการนี้แก่ข้าพระองค์เถิด.
[1333] ดูก่อนท่านพราหมณ์ ท่านเห็นโทษใน
ความโกรธ ในโทสะ ในโลภะ และในสิเนหา
เป็นอย่างไรหรือ ข้าพเจ้าขอถามความนั้น ขอ
ท่านจงบอกแก่ข้าพเจ้าเถิด.
[1334] ความโกรธเกิดแต่ความไม่อดทน ทีแรก
เป็นของน้อย แก่ภายหลังเป็นของมาก ย่อม
เจริญขึ้นโดยลำดับ ความโกรธมักทำความ
เกี่ยวข้อง มีความคับแค้นมาก เพราะฉะนั้น
ข้าพเจ้าจึงไม่ชอบใจความโกรธ.
[1335] วาจาของผู้ประกอบด้วยโทสะ เป็น
วาจาหยาบคาย ถัดจากนั้นก็เกิดปรามาส ถูก
ต้องกัน ต่อจากนั้นก็ชกต่อยกันด้วยมือ ต่อไป
จับท่อนไม้เข้าทุบตีกัน จนถึงจับศัสตราเข้า
ฟันแทงกันเป็นที่สุด โทสะเกิดแต่ความโกรธ
เพราะฉะนั้น ข้าพระองค์จึงไม่ชอบใจโทสะ.

[1336] ความโลภก่อให้เกิดอาการหยาบ เป็น
เหตุให้เที่ยวปล้นขู่เอาสิ่งของเขา แสดงของ
ปลอมเปลี่ยนเอาของคนอื่น ประกอบอุบาย
ล่อลวง บาปธรรมทั้งหลายนี้มีอยู่ในโลภธรรม
เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงไม่ชอบใจโลภ
[1337] กิเลสเครื่องร้อยรัดทั้งหลาย เป็นเครื่อง
สำเร็จได้ด้วยใจ ถูกสิเนหาผูกมัดเข้าอีกด้วย
แล้ว ถ้านอนเนื่องอยู่เป็นอันมาก มักทำให้
บุคคลเดือดร้อนยังนี้ เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้า
จึงไม่ชอบใจสิเนหา.
[1338] ข้าแต่ท่านพราหมณ์ คำนั้นท่านกล่าว
แล้ว เป็นสุภาษิตอันสมควร ข้าพเจ้าจะให้
พรแก่ท่าน ตามแต่ใจท่านปรารถนาเถิด.
[1339] ข้าแต่ท้าวสักกะผู้เป็นใหญ่กว่าภูตทั้ง-
ปวง ถ้าจะโปรดประทานพรแก่ข้าพระองค์ ขอ
อาพาธทั้งหลายอันเป็นของร้ายแรง ซึ่งจะทำ
อันตรายแก่ตบะกรรมได้ อย่าพึงเกิดขึ้นแก่

ข้าพระองค์ผู้อยู่ในป่า ซึ่งอยู่แต่ผู้เดียวเป็น
นิตย์.
[1340] ดูก่อนท่านพราหมณ์ คำนั้นท่านกล่าว
ดีแล้ว เป็นสุภาษิตอันสมควร ข้าพเจ้าจะให้
พรแก่ท่าน ตามแต่ใจท่านปรารถนาเถิด.
[1341] ข้าแต่ท้าวสักกะผู้เป็นใหญ่กว่าภูตทั้งปวง
ถ้าจะโปรดประทานพรแก่ข้าพระองค์ ขอใจ
หรือร่างกายของข้าพระองค์ อย่าเข้าไปกระทบ
กระทั่งใคร ๆ ในกาลไหน ๆ เลย ขอได้ทรง
โปรดประทานพรนี้เถิด.

จบ กัณหชาดกที่ 2

อรรถกถากัณหชาดกที่ 2



พระศาสดาเมื่อเสด็จเข้าไปอาศัยพระนครกบิลพัสดุ์ ประทับอยู่
ณ นิโครธาราม ทรงปรารภความยิ้มแย้ม จึงตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่มต้นว่า
กณฺโต วตายํ ปุริโส ดังนี้.
ได้ยินว่า คราวนั้น เวลาเย็นพระศาสดาแวดล้อมไปด้วยภิกษุ
สงฆ์ เสด็จพุทธดำเนินไปตามบริเวณวิหารนิโครธาราม ได้ทรงยิ้มแย้ม